Thursday, March 19, 2015

รองศาสตราจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร


รองศาสตราจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร

ประวัติ

อ.แสงอรุณ รัตกสิกร
เกิดเมื่อวันที่: ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๕ ที่ตำบลดงพระราม จังหวัดปราจีนบุรี 
บิดา: พ.อ.พระยาวิเศษสิงหนาท (สาหร่าย รัตกสิกร) 
มารดา: คุณหญิงระเบียบ วิเศษสิงหนาท (สกุลเดิม คงพันธุ์) 
มีพี่น้อง: ๖ คน าจารย์เป็นคนที่สาม ได้แก่ 
       ๑. นายแพทย์ ระวิรัศ รัตกสิกร
 ๒. น.ส. นวลจันทร์ รัตกสิกร
 ๓. นาย แสงอรุณ รัตกสิกร
 ๔. น.ส. แสงจันทร์ รัตกสิกร
 ๕. น.ส. ศรีจันทร์ รัตกสิกร
       ๖. นาย อุทัย รัตกสิก 





การศึกษา 

ระดับชั้นประถมศึกษาเรียนหนังสือที่ : นครสวรรค์ 
ระดับมัธยม : โรงเรียนสวนกุหลาบและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตามลำดับ
ระดับอุดมศึกษา : เรียนจบปริญญาตรี สถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต (สถ.บ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
รับราชการ : ตำแหน่งอาจารย์ตรี เงินเดือน ๑๔๐ บาทในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท : ทุน ก.พ. ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ๒ ปี  สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต 
          (Master of Architecture) มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา

 หลังจบการศึกษาจากคอร์เนล อ.แสงอรุณมีโอกาสไปใช้ชีวิตและฝึกงานอยู่กับสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ของอเมริกาและของโลก “มหาพรหม” แฟรงค์ ลอย ไรท์ (Frank Lloyd Wright, ค.ศ. ๑๘๖๗-๑๙๕๙) ในสำนักทาไลซินตะวันออกบนเนินเขาวิสคอนซิ่นและทาไลซินตะวันตกในทะเลทรายอะริโซน่า 

อ.แสงอรุณแต่งงานกับลดา สีบุญเรือง มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน เมื่อเขากลับมาเมืองไทยก็รับราชการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยตามเดิม จวบจนตำแหน่งรองศาสตราจารย์ระดับ ๙ ตำแหน่งสุดท้าย เงินเดือน ๑๐,๖๘๐ บาท


อุปนิสัย

ท่านเป็นอาจารย์ที่มีจิตวิญญาณความเป็นครูอย่างแท้จริง สอนให้นักศึกษารักศิลปะและธรรมชาติสอนสนุกมีสีสัน ครั้งหนึ่ง ท่านได้วิจารณ์และอธิบายสถาปัตยกรรมแบบโกธิคให้นักศึกษาฟังว่า 

“สูงประหนึ่งสามารถเอามือไปเกาตีนพระเจ้าได้ ฉันนั้น”


ท่านเป็นอาจารย์นอกรีต ใส่เสื้อปล่อยชาย ไม่ผูกเน็คไท ไว้หนวดเครารุงรัง จนอาจารย์บางคนรับไม่ได้หาว่าแต่งตัวไม่สมกับสถานะอาจารย์ เขาย้อนกลับเรียบๆ ว่า 

“คุณไปบอกอาจารย์พวกนั้นให้มาทำงานตรงเวลาดีกว่า!”


นอกจากอาจารย์แสงอรุณจะเป็นสถาปนิกและอาจารย์ที่เข้าใจในธรรมชาติ ปรัชญา ศิลปะ 
และสถาปัตยกรรมอย่างลึกซึ้งแล้ว 

ท่านยังเป็นศิลปินที่มีความสามารถหลายแขนง ไม่ว่าจะวาดรูปสวยระดับจิตรกรเอก 
เป็นประติมากรด้วย 

อาจารย์เป็นผู้มีวาจาเฉียบคมพอๆกับเขียนหนังสือได้เฉียบคมและสละสลวย เต็มเปี่ยมวรรณศิลป์ 
ที่สำคัญที่สุดอาจารย์เป็นคนรักธรรมชาติและมีความเป็นไทยอย่างที่สุด


อ.แสงอรุณ รัตกสิกร ถึงแก่กรรมอย่างกะทันหันที่บ้าน ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน 
โดยไม่มีอาการป่วยใดๆล่วงหน้า 
เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ รวมอายุได้ ๕๖ ปี ๘ เดือน ๒๖ วัน


การทำงาน

  • สิงหาคม 2497 ตำแหน่งอาจารย์โท
  • 20 กรกฎาคม 2503 ตำแหน่งอาจารย์เอก
  • 30 ตุลาคม 2511 ตำแหน่งชั้นพิเศษ
  • ตุลาคม 2512 ตำแหน่งรองศาสตราจารย์
  • ตุลาคม 2519 ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 7
  • มิถุนายน 2520 ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 8
  • 22 พฤษภาคม 2522 ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 9



ผลงาน

ด้านงานเขียน

ผลงานเขียนหนังสือเช่น เเสงอรุณ๒ (๑ในหนังสือร้อยเล่มที่คนไทยควรอ่าน) ตึก ,ต้นไม้, และแสงอรุณ,ทรรศนะอุจาด .แสงอรุณแห่งสถาปัตยกรรม "เรณู - ปัญญา" เที่ยวรถไฟ,อนุสาวรีย์ที่ไทยทำ โดยส่วนใหญ่ท่านใช้นามจริง เว้นบางเรื่องใช้นามปากกาว่า ส.รัตกสิกร ท่านยังมีฝีมือในการเขียนภาพลายเส้น นิสัยรักธรรมชาติและการศึกษาค้นคว้า เป็นผู้เผยเเพร่ความรู้เรื่องอนุรักษ์ศิลปะและสิ่งเเวดล้อมที่ดีเยี่ยมผู้หนึ่ง
                 หนังสือแสงอรุณแห่งสถาปัตยกรรม หนังสือ ตึก ต้นไม้ และแสงอรุณ
 
 ภาพหนังสือแสงอรุณ 1 และ แสงอรุณ 2
(จัดทำขึ้นเพื่อเป็นของที่ระลึกในงานศพของท่านอาจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร)



ด้านงานภูมิสถาปัตยกรรม

ผลงานออกแบบสวนรัฐสภา และออกแบบงานประติมากรรมในสวนแห่งนี้ด้วย





เอกภาพของสวนกำหนดขึ้นเป็นจุดศูนย์กลางของบริเวณด้วยรูปศาลาซึ่งหนีไม่พ้นแบบศาลาทรงไทยเดิม โฉมของอดีตแบบนี้เห็นจะต้องใช้กันอีกนาน อาจจะตลอดไปก็ได้ เพราะงานสถาปัตยกรรมปัจจุบันของไทยเรานี้  ไม่อาจให้ผลที่คนทั่วไปยินยอมรับอย่างพอใจ ว่าเป็นผลงานที่แสดงเอกลักษณ์ของไทย สถาปนิกปัจจุบันก็ได้พยายามกันมามากต่อมากในการแสวงหาและแสดงออก ซึ่งงานสถาปัตยกรรมอันแสดงเอกลักษณ์ของไทยยุคนี้ ซึ่งเป็นผู้รับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษไทยแต่ก็ยังไม่สำเร็จกันสักรายเดียว
           
           ถึงจะใช้รูปทรงเดิมที่เป็นผลผลิตของอดีตสถาปนิก ศาลาไทยในสวนรัฐสภาหลังนี้ก็พยายามใส่อิริยาบถหลายอย่างลงไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แปลกไปกว่าของเก่า การมุงหลังคาทั้งผืนแผ่นทองแดง เพื่อให้หลังคาทนขึ้น  และให้ผลเมื่อรับแสงแดดเป็นประกายวาบวับ  “เพื่อให้รสสัมผัสใหม่” หรือการที่หุ้มจุดชำรุดง่ายที่ยอดของปั้นลม และที่ปลายล่างของปั้นลมด้วยทองแดงสลักลายนูน  สูงขึ้นทำให้เกิดผลการเปรียบเทียบระหว่างไม้และโลหะเมื่อทอดตาไปสัมผัส ปั้นลมหางปลาเพื่อแก้ปัญหาการผุกร่อนในการต่อไม้  และเพื่อผลในการแสดงสัจจะของรูปหรือการบรรจุหน้าบันโลหะชุบเงิน  รูปสามเหลี่ยมเล็กลงในแนวเดียวกับปั้นลมเหล่านี้ทำให้เกิดอริยาบทใหม่ขึ้นในรูปทรงเก่า  เป็นการพยายามอันหนึ่งที่เสนอต่อผู้ดูเพื่อพิจารณาตัดสินอาจจะเป็นสิ่งที่เล็กน้อย  และกระดิกได้ไม่เท่าไหร่  ก็เต็มบริเวณเสียแล้วก็ได้แต่ก็พยายามที่จะ “กระดิกเพื่อให้เห็นว่ายังไม่ “สิ้นลม”  เสียโดยสิ้นเชิงหรือลอกของเก่าอย่างไม่ลืมหูลืมตา



ด้าน CERAMIC MURAL PAINTING(อาคารเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน)




 ศิลปกรรมภาพผนังเคลือบดินเผากลางแจ้ง (CERAMIC MURAL PAINTING)ประดับอยู่บริเวณอาคาร โดยงานเซรามิค ทั้ง ชิ้นนี้ อาจารย์แสงอรุณได้ออกแบบและติดตั้งควบคู่ไปกับกรสร้างอาคารเรียน   ส่วนสาเหตุที่อาจารย์แสงอรุณ มาสร้างภาพเซรามิคให้โรงเรียนนั้น เป็นเพราะทางโรงเรียนต้องการศิลปะที่ทันสมัยแฝงความเป็นไทย และคงอยู่ได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ให้สมกับที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนจะต้องมองไปข้างหน้าเพื่อแสวงหาสิ่งที่ ดีกว่า ประกอบกับอาจารย์แสงอรุณ
     งานภาพผนังเคลือบดินเผาทั้ง ชิ้นนี้จัดเป็ฯศิลปะแบบ Visual Art คือสื่อความหมายทางตา มีทั้งส่วนที่เรียบง่าย และส่วนที่เป็นกึงนามธรรม (Semi Abstract) ซึ่งงานลักษณะนี้ จัดเป็นงานสร้างสรรค์ ไม่ใช่งานลอกเลียน หรือเขียนให้เหมือนจริง และที่สำคัญทำให้ผู้ดู ดูแล้วเกิดความคิด ต้องพยายามศึกษาค้นคว้า หรือตั้งคำถาม ถามตนเอง ดูว่าสิ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ถึงแม้แต่ละคนจะรู้สึกสัมผัสได้ไม่เท่ากันก็ตาม เช่นชาวคริสต์จะสัมผัสได้ในแนวทางหนึ่ง ส่วนคนที่สนใจในศิลปะก็อาจจะสัมผัสได้ในอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งก็นับว่างานหเหล่านี้มีคุณค่าทางศิลปะแฝงอยู่ในตัว
      นอกจากนี้การใช้ความคิดริเริ่ม เพื่อจะสื่อผลงานศิลปะในแนวจิตกรรมให้คงอยู่คู่กับสถาปัตยกรรมอย่างถาวรนั้น การใช้ภาพผนังเคลือบดินเผาจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะทนแดดทนฝน เหมาะกับการตั้งนอกอาคาร อาจจะกล่าวได้ว่าวิธีนี้เป็นการนำแนวศิลปะในรูปแบบต่างๆมารวมไว้ด้วยกัน ทั้งศิลปะกับชีวิตประจำวันและศิลปะกับสิ่งแวดล้อม ทำให้งานชิ้นน้จัดได้ว่ามีคุณค่าทางการออกแบบด้วย
      จะเห็นได้ว่าผลงานเซรา มิคของอาจารย์แสงอรุณนั้นเป็นงานที่มีคุณค่าทางประวัติสาสตร์ คุณค่าทางด้านศิลปะ และคุณค่าทางด้านออกแบบ ซึ่งความหมายแท้จริงที่แฝงอยู่ในตัวผลงานเหล่านั้น คงไม่มีใครบอกได้ดีเท่ากับตัวของอาจารย์แสงอรุณเอง แต่น่าเสียดายปัจจุบันอาคารแห่งนี้ถูกทุบทำลายเพื่อสร้างอาคารเรียนใหม่แล้ว คงเหลือแต่ความทรงจำเท่านั้นเอง


ด้านงานเขียนภาพบางส่วน

อ.แสงอรุณ ได้รับอิทธิพลในการวาดภาพดินสอ และยกย่อง ทีโอดอร์ คอสกี้ ชาวฮังการี เป็นครูใหญ่ในการวาดภาพ Outdoor sketch เพราะ ทีโอดอร์ คอสกี้เป็นผู้ที่ขยายขอบของภาพเขียนดินสอออกไปโดยการเหลาดินสอแบนแบบปากเป็ด ซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของท่านอย่างแท้จริง

                   ภาพ คตทินกร   ภาพวาดอาจารย์นารถ โพธิประสารท


 เจ้าพ่อประตูผา,ลำปาง(ต้นฉบับ 10นิ้วครึ่งx17 นิ้ว)

ภาพซ้าย จาก Reproduction 
ภาพขวาบน หมอกตก,ทางไปเชียงคำ(ต้นฉบับ 14x14 นิ้ว)
ภาพขวาล่าง ผาหมี,เชียงราย (ต้นฉบับ 14x14 นิ้ว)

กัณฑ์ทศพร ผลงานภาพปฏิทิน

ผลงานภาพเขียนสีน้ำ

ผลงานกับวารสาร "สิ่งแวดล้อม"


อาจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร
เป็นทั้งสถาปนิก ศิลปิน นักเขียน ผู้ซึ่งมีความสามารถหลากหลาย 
ผลงานของท่านยังคงคุณค่าควรแก่การที่สถาปนิกทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ 
และผู้ใฝ่รู้ทั้งหลายจะได้มีไว้เพื่อศึกษาและยึดถือนำไปปฏิบัติ 

ท่านเป็นผู้มีความเข้าใจในธรรมชาติ วิถึชีวิตแบบไทย 
 เป็นศิลปินผู้มีความจริงใจ ผู้ซึ่งน่ายกย่องเป็นอย่างมากท่านหนึ่ง


No comments:

Post a Comment