เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 16 เมษายน 2558 ได้มีโอกาศเดินทางไปยังบริษัท P A A Studio ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่อาคาร Q-House อโศก เพื่อไปสัมภาษณ์พูดคุยกับพี่ เดช หรือ พรเดช อุยะนันทน์ เป็นรุ่นพี่สถาปนิกที่จบจากคณะสถาปัตลาดกระบัง
การที่ได้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่ในครั้งนี้ เป็นการสร้างสายสัมพันธ์อันดีต่อรุ่นพี่รุ่นน้อง ได้ฟังประสบการณ์การทำงานของพี่ในถานะ สถาปนิก และแง่คิดมุมมองต่างๆที่สามารถนำมาปรับใช้กับการเรียนและในอนาคตข้างหน้า
พี่เดชช่วยเล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆให้ฟังหน่อยค่ะ :
“พี่เข้าศึกษาที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ลาดกระบัง เมื่อปี 2528 จบการศึกษาปี 2533 หลังจากจบการศึกษาไม่ได้เรียนต่อที่ไหน ได้เข้าทำงานที่บริษัท Design 103 เลย ซึ่งการทำงานที่นี่ทำให้ได้เรียนรู้การทำงานของบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งมีงานหลากหลาย ที่นี่กล่อมเกลาพี่ในเรื่องเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการออกแบบมากมาย
ประสบการณ์การทำงานของพี่เดช :
: บริษัท P A A Studio 10 ปี
: PIA 7 ปี
: Freelance 4 ปี
: Design 103 Architect 10 ปี
พี่เดชทำงานที่ Design103 อยู่ 10 ปี ทำทุกอย่าง ตั้งแต่เขียนดรออิ้งห้องน้ำ ที่จอดรถ ระยะของเครื่องสุขภัณฑ์ ทำเปเปอร์เวิร์ค การทำแบบขออนุญาติ ไปจนถึงตึกสูง ซึ่ง10ปีที่พี่เดชทำงานที่บริษัทนี้ กล่อมเกลาพี่ในเรื่องเกี่ยวกับรายละเอียด เราจะดีไซน์ตึกไม่ได้ถ้าเราไม่รู้รายละเอียดไดเมนชั่นเล็กๆน้อยๆนี้ เพราะฉนั้น เราต้องสนใจ ต้องนำเอาดรออิ้งที่มีอยู่แล้วมาศึกษา ระยะไดเมนชั่นต่างๆ ต้องมีความสนใจ
หลังจาก 10 ปีผ่านไป เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ฟองสบู่แตก ช่่วงนั้นพี่เดชรับงานนอกมากมาย และทำงานบริษัทไปด้วย ซึ่งงานเยอะมากจนทำงานออฟฟิศไม่ไหวผนวกกับเศรษฐกิจที่ไม่ดี พี่เดชจึงลาออกมาทำเองเป็น Freelance อยุ่ 4 ปี งานที่ได้ส่วนใหญ่จะได้คอนเน็คชั่นจาก Design 103 พี่ทำบ้าน 12 หลัง ตอนนั้น PIAซึ่งเป็นบริษัทอินทีเรีย มีโปรเจคสำนักงานใหญ่ ได้เรียกพี่เดชให้ทำโปรเจคธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ โดยพี่เดชเป็นคนดูภาพรวม ตั้งแต่นั้นก็ได้ทำงานที่ PIA อยู่ 7 ปี และแยกตัวมาเปิด section จากPIA มาเป็น Paa studio จนถึงทุกวันนี้ก็ครบ 10 ปีแล้ว
ลักษณะการทำงานของพี่เป็นอย่างไรคะ :
ทุกวันนี้ พี่เดชทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท Paa Studio โดยออฟฟิศเราเป็นออฟฟิศออกแบบ เราไม่ได้รับเหมาก่อสร้าง ทุกวันนี้เราก็ทำงานออกแบบอยู่ ซึ่งพอมีออฟฟิศเป็นของตัวเอง เราก็ต้องบริหารควบคู่ด้วย แต่เราก็ทำจากเล็กไปใหญ่ ไม่ใช่เปิดบริษัทมาก็คุมงานใหญ่เลย เริ่มจากเล็กๆ พนักงานไม่เยอะ จนพนักงานมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ นอกจากทำงานออกแบบแล้ว เรายังต้องทำงานในด้านบริหารด้วย ซึ่งทำงานมาเรื่อยๆก็อาศัยประสบการณ์ โดยไม่ได้เรียนบริหารโดยตรง แต่ด้วยประสบการณ์ก็นำมาพลิกแพลงจนบริหารได้
งานหรือผลงานที่พี่คิดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีคืออะไรคะ :
" ออกแบบไม่ใช่เรื่องหน้าตาอย่างเดียว" แต่ออกแบบต้องคำนึงถึงฟังชั่นด้วย และเราทำตามความต้องการของเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นอาคารพักอาศัยหรืออาคารอะไรก็แล้วแต่
ปัญหาอะไรบ้างที่พี่เดชเคยเจอในการทำงานคะ :
มีมาตลอด มีทุกๆโปรเจคครับ เอาเรื่องหลักๆที่พี่เคยพบเจอมานะ จะเล่าให้ฟัง มีครั้งนึงเป็นปัญหาที่ โอ้โหว พี่เดชไม่รู้จะทำยังไง คือเรื่อง"โฉนดที่ดิน" คือวลาเราได้มา ก็จะเป็นตารางสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีสเกล เราเอาไปสแกน แล้วเขียนออโต้แคด แล้วเราทราบพื้นที่ว่ากี่ไร่ กี่ตารางวา แต่ทีนี้เขาไม่ได้ให้สารบัญโฉนดมา พี่เดชก็เริ่มออกแบบเรือนไทยไป 6 unit เรียบร้อย เสร็จไปยื่นแบบขออนุญาต แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่มีแปลงเล็กแนบมา พี่เดชบอกว่า แปลงเล็กอะไรครับ เขาบอกว่า แปลงนี้มีการแบ่งขายไป 100 ตารางวา โอ้โห พี่เดชหน้ามืดโดนนายด่า ที่หายไป 100 ตารางวา ทำไมรู้มั้ยครับ โฉนดเนี่ย แปลงที่ลูกค้าเอามาให้ เขาเรียกแปลงคง ไม่รู้น้องรู้จักมั้ย ประเด็นที่พี่เดชจะบอกคือ ให้จำไว้ว่า ถ้าคุณได้โฉนดมา คุณต้องขอ สารบัญโฉนดด้วย ว่า สารบัญนี้จะแบ่งที่ดินไว้แล้ว แต่แปลงคงนี้จะไม่มีการแบ่งคุณจะมองไม่เห็น ทำให้การทำงานผิดพลาดได้มหาศาลครับ
พี่คิดว่าสถาปนิกควรมีลักษณะและปฏิบัติตนในการทำงานอย่างไรคะ :
สถาปนิกต้องออกแบบให้ผู้ใช้งานมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องคำนึงถึงบริบทรอบด้าน โดยไม่กระทบต่อวิถีชีวิตเดิมของพื้นที่เดิม พี่เดชว่ามันมีความลึกซึ้งกว่าแค่การออกแบบในเชิงD-conนะ
ข้อคิดที่สำคัญในการทำงานคืออะไรคะ :
พี่คิดว่านักออกแบบต้องใส่ใจในรายละเอียดให้มากๆ หัดเป็นคนช่างสังเกต เพราะสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่องาน และต้องมีความละเอียดรอบคอบด้วยครับ
อยากให้พี่ช่วยเล่าถึงบรรยากาศสมัยเรียนที่ลาดกระบัง การใช้ชีวิตและกิจกรรมในคณะว่าเป็นอย่างไรบ้างค่ะ :
พี่ก็ทำกิจกรรมรับน้อง ซึ่งสมัยพี่ปี 2 จัด แล้วกิจกรรมอีกอย่างที่เขารับน้องรวมที่ไปต่างจังหวัดหน่ะ ที่เรียกมีตติ้งใช่มั้ย ตอนนี้ยังมีอยู่ไหม พี่ว่ามีตติ้งนี้ดีมาก คือทำให้เราได้รู้จักรุ่นพี่ ทั้งของภาคสน ศอ นิเทศ ทำให้เราจบออกมาแล้วในวงการก่อสร้างหน่ะ เราก็จะรู้จักพี่คนนู้นคนนี้ เมื่อทำงานเเล้วได้ไปบริษัทใหญ่ๆก็ได้เจอได้รู้จักพี่ที่เคยรู้จัก ซึ่งมีกิจกรรมนี้ก็ได้รับคำสอนคำเดือนจากพี่ได้โดยตรง แต่ถ้าไม่มีกิจกรรมนี้ เราเหมือนไม่ได้รู้จักคนอื่นจากภาคอื่นๆเลย รู้จักกันแต่ในรุ่นเราเท่านั้นซึ่งก็ไม่ดีนะ
อีกอย่างความทรงจำที่พี่เดชประทับใจต่อลาดกระบัง คือเรื่องสถาปัตยกรรมไทยพื้นถิ่นที่อาจารย์จิ๋วสอน มันมีอะไรหลายๆเรื่องที่เกี่ยวกับการดีไซน์ที่ที่อื่นอาจจะไม่มีสอน คือพี่เดชคิดว่าที่ได้ประโยชน์อย่างมากจากวิชานี้ คือการออกไปดูงานนอกสถาบัน และอาจารย์พาไปดูวัด พาไปดูตลาดน้ำ พาไปดูงานครูบาอาจารย์ที่เป็นของโบราณ มันจะมีเรื่องงานดีไซน์ที่เรียนในห้องฟังแล้วก็ไม่เห็นภาพ ไม่คล้อยตาม แต่พอได้ไปดูของจริงแล้วเนี่ยมันทำให้เราเกิดความรู้มากกว่า เหมือนกับว่าสถานที่นั้นจะมีทุกเรื่องราวครบ สถานที่นั้นๆจะช่วยสอนเราเอง โดยอาจารย์จิ๋วจะชี้แนะให้เรามองเห็น ซึ่งเออกไปเราก็จะได้บรรยากาศ ก็ไปดูงาน ทำให้รุ่นๆพี่เดชนั้นรักในงานพื้นถิ่นเป็นส่วนใหญ่ ได้เห็นงานที่มีคุณค่า พอมาทำงานก็จะได้รับอิทธิพลจากงานที่อาจารย์พาไปดู มาดีไซน์
พี่คิดว่าสถาปนิกรุ่นใหม่ที่จบจากลาดกระบังมีคุณภาพอย่างไรคะ :
อีกอย่างความทรงจำที่พี่เดชประทับใจต่อลาดกระบัง คือเรื่องสถาปัตยกรรมไทยพื้นถิ่นที่อาจารย์จิ๋วสอน มันมีอะไรหลายๆเรื่องที่เกี่ยวกับการดีไซน์ที่ที่อื่นอาจจะไม่มีสอน คือพี่เดชคิดว่าที่ได้ประโยชน์อย่างมากจากวิชานี้ คือการออกไปดูงานนอกสถาบัน และอาจารย์พาไปดูวัด พาไปดูตลาดน้ำ พาไปดูงานครูบาอาจารย์ที่เป็นของโบราณ มันจะมีเรื่องงานดีไซน์ที่เรียนในห้องฟังแล้วก็ไม่เห็นภาพ ไม่คล้อยตาม แต่พอได้ไปดูของจริงแล้วเนี่ยมันทำให้เราเกิดความรู้มากกว่า เหมือนกับว่าสถานที่นั้นจะมีทุกเรื่องราวครบ สถานที่นั้นๆจะช่วยสอนเราเอง โดยอาจารย์จิ๋วจะชี้แนะให้เรามองเห็น ซึ่งเออกไปเราก็จะได้บรรยากาศ ก็ไปดูงาน ทำให้รุ่นๆพี่เดชนั้นรักในงานพื้นถิ่นเป็นส่วนใหญ่ ได้เห็นงานที่มีคุณค่า พอมาทำงานก็จะได้รับอิทธิพลจากงานที่อาจารย์พาไปดู มาดีไซน์
พี่คิดว่าสถาปนิกรุ่นใหม่ที่จบจากลาดกระบังมีคุณภาพอย่างไรคะ :
พี่เดชรู้สึกว่า น้องๆรุ่นใหม่อ่อนในเรื่องคอนกว่ารุ่นก่อนๆนะ แม้แต่ถามระยะ ไดเมนชั่น ขนาดมาตรฐานที่ควรจะรู้ แต่กลับไม่ค่อยมีน้องคนไหนรู้ พี่เดชก็สงสัยนะว่าเกิดอะไรขึ้น
พี่เดชอยากให้ภาตวิชาปรับปรุงอะไรบ้างไหมคะ :
พี่เดชอยากให้การเรียนการสอนเน้นในเรื่องของดีเทล รายละเอียดให้มากขึ้น อย่างเช่นการตัดโมเดลคอน ให้ตัดแบบโมเดลขยาย หรือแบบขยายต่างๆ ระยะมาตรฐาน การวางฟอร์เดรน การติดตั้งระยะเท่าไหร่ พี่เดชอยากให้ใส่ใจกับรายละเอียดให้มากกว่านี้
พี่เดชอยากให้ภาตวิชาปรับปรุงอะไรบ้างไหมคะ :
พี่เดชอยากให้การเรียนการสอนเน้นในเรื่องของดีเทล รายละเอียดให้มากขึ้น อย่างเช่นการตัดโมเดลคอน ให้ตัดแบบโมเดลขยาย หรือแบบขยายต่างๆ ระยะมาตรฐาน การวางฟอร์เดรน การติดตั้งระยะเท่าไหร่ พี่เดชอยากให้ใส่ใจกับรายละเอียดให้มากกว่านี้
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ พี่เดช หรือพี่ พรเดช อุยนันทน์ ที่ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ค่ะทำให้ได้ข้อคิดต่างๆมากมาย เพื่อนำไปเป็นแนวทางการเรียนและเตรียมตัวเป็นสถาปนิกที่ดีในอนาคตค่ะ